ROI คืออะไร (ผลตอบแทนจากการลงทุน)

Dn, S. K. (2022, January 21). 4 Ways To Measure The ROI Of Online Training. eLearning Industry. https://elearningindustry.com/ways-to-measure-roi-of-online-training 

ROI เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของระบบการเดิมพันออนไลน์ โดยจะวัดการเติบโตของเงินทุนในการเดิมพันในช่วงเวลาที่กำหนด 

ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน)

ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) คือการพิจารณาที่สำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการเป็นนักพนันที่ทำกำไรได้ดี เนื่องจากการเติบโตของการเดิมพันออนไลน์ แม้แต่นักเดิมพันทั่วๆไปก็ควรเข้าใจ ROI ในการเดิมพันกีฬา ROI จะวัดจำนวนเงินเดิมพันที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น เดือน ปี หรือการเดิมพันทั้งหมด 

การคำนวณ ROI

การคำนวณ ROI มีวิธีดังนี้:

สูตร ROI: กำไร = (เงินที่ชนะ – เงินที่เดิมพัน)

สิ่งที่นักพนันต้องทำคือนำจำนวนเงินเริ่มต้นที่เดิมพัน (เดิมพันทั้งหมด) ลบออกจากยอดรวมปัจจุบัน (รวมทั้งที่ชนะและแพ้) จากนั้นแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์

ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นด้วยเงิน $100 แต่ลงเอยด้วยเงิน $150:

($150 – $100) / $100 * 100% = 50%

ดังนั้น ROI ของการเดิมพันจะเป็น +50% ซึ่งหมายความว่าพวกเขาทำกำไรได้ 50% ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี

Roi ในการเดิมพันกีฬา

โดยทั่วไป ROI 3-6% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี มืออาชีพอาจมุ่งเป้าไปที่ผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า ROI 3-6% ที่สม่ำเสมอ สามารถเติบโตเมื่อเวลาผ่านไปได้

Yield – อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ

Yield อัตราผลตอบแทนเป็นเหมือนการวัดประสิทธิภาพของคุณในการเดิมพันแต่ละครั้งหรือแต่ละจำนวนเงินที่คุณใส่ในการเดิมพันกีฬา ช่วยให้เห็นว่ากลยุทธ์การเดิมพันของคุณมีประสิทธิภาพแค่ไหน ไม่สำคัญว่าจะต้องเริ่มต้นด้วยเงินเท่าไหร่ มันเป็นวิธีที่ช่วยเปรียบเทียบความสามารถในการเล่นของคุณกับกลยุทธ์ที่ใช้เล่นหรือกับนักเดิมพันคนอื่นๆ แตกต่างจาก ROI ที่อัตราผลตอบแทนจะยังคงเท่าเดิมไม่ว่าคุณจะมีเงินจำนวนเท่าใด 

การคำนวณ Yield

ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นด้วยเงิน $10,000 และแบ่งเงินนี้ออกเป็น 100 ส่วนเท่าๆ กัน จากนั้นตลอดหนึ่งปี วางเดิมพันหนึ่งครั้งต่อวันเป็นเวลา 365 วัน การเดิมพันแต่ละครั้งมีมูลค่า $100 เมื่อสิ้นปี เขาชนะเดิมพัน 195 รายการ และแพ้เดิมพัน 170 รายการ และตอนนี้เขามีเงินในบัญชีอยู่ที่ 12,760 ดอลลาร์ ดังนั้น กำไรของเขาคือ $2,760 

ตัวเลขสำคัญ:

ยอดเริ่มต้น: $10,000

ขนาดต่อหน่วย: $100

จำนวนเดิมพัน: 365

เดิมพันชนะ: 195

เดิมพันแพ้: 170

กำไรสุทธิ: + $2,760

ยอดคงเหลือสุดท้าย: $12,760

ในการคำนวณผลตอบแทน (ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาทำได้ดีแค่ไหนต่อหน่วยที่ลงทุน) คุณต้องหารกำไรของเขาด้วยเงินทั้งหมดที่เขาเสี่ยง จึงเป็นดังนี้: Yield = 2760 / 36500 = 0.07562

นั่นหมายถึงผลตอบแทนของเขาคือ 7.562% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยกลยุทธ์การเดิมพันของเขา

อิทธิพลของอัตราต่อรอง

อัตราต่อรองที่แตกต่างกันในการเดิมพันสามารถมีอิทธิพลต่อสิ่งต่างๆ เมื่อเราดูนักพนันหลายๆ คน ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งคืออัตราต่อรองที่พวกเขาเดิมพัน 

นักพนันหลายคน เช่น นักพนันกีฬาที่เดิมพันทายผลต่อแต้ม (Handicap) หรือเดิมพันสเปรดหรือแบบกระจายแต้ม (Point Spread)  มักจะเดิมพันที่อัตราต่อรองประมาณ 2.000 ในทางกลับกัน นักเดิมพันที่เน้นการแข่งม้าอาจมีอัตราต่อรองเฉลี่ยที่สูงกว่ามาก เช่น 10,000 หรือมากกว่านั้น

ทีนี้ ลองนึกภาพนักเดิมพันสองคน ทั้งคู่มีการเดิมพัน 2,500 รายการ เราสามารถใช้แนวคิดเดิมเพื่อทำความเข้าใจประสิทธิภาพการเล่นของพวกเขาได้ แม้ว่านักเดิมพันทั้งสองคนจะมีจำนวนเดิมพันเท่ากัน 

แต่ก็มีความเป็นไปได้มากกว่าที่ผลตอบแทน 5% จะเกิดขึ้นโดยบังเอิญได้โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะสำหรับผู้เดิมพันที่มีอัตราต่อรอง 10,000 เนื่องจากเหตุการณ์ที่มีความน่าจะเป็นน้อยกว่าจะอาจได้โชคช่วย การเดิมพันด้วยอัตราต่อรองที่สูงกว่าสามารถนำไปสู่ผลกำไรและผลตอบแทนที่มากขึ้นเพียงแค่โชคดี แต่ข้อเสียคือถ้าโชคไม่ดี มันยังสามารถนำไปสู่การสูญเสียที่มากได้ด้วยเช่นกัน

บทสรุป

การศึกษาการเงินในการเดิมพันเป็นสิ่งสำคัญ ROI ในการเดิมพันนั้นไม่เท่ากันทั้งหมด หากนักพนันรายหนึ่งมี ROI ที่มากกว่าอีกรายหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเดิมพันได้ดีกว่า ผลตอบแทนที่มากขึ้นอาจมาจากประวัติการเดิมพันที่น้อยกว่าหรือการเดิมพันด้วยอัตราต่อรองที่สูงกว่า การมี ROI สูงอาจดีในระยะสั้น แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ ในระยะยาวก็คือทักษะของนักพนัน